top of page
Search


ปี 62 นี้ก็ผ่านมาครึ่งปีแล้ว วันหยุดครึ่งปีหลังมีวันไหนบ้าง จะได้เตรียมแผนเที่ยว หรือเตรียมตัวเลี่ยง ไปเที่ยวก่อนหรือหลังช่วงคนเยอะ และเผื่อเวลาให้ผู้สูงอายุที่บ้านได้เตรียมตัวอีกด้วย เตรียมล็อกวันวันลาไว้นะจ้ะ


เดือนมิถุนายน

· ได้หยุด เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ ที่ 1- 2- 3 มิถุนายน

วันจันทร์ที่ 3 มิ.ย. วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

เดือนกรกฎาคม

· ได้หยุด อังคารที่ 16 วันอาสาฬหบูชา – พุธที่ 17 วันเข้าพรรษา

** ลา 3 วัน ได้หยุด 9 วัน **

· ได้หยุด เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ ที่ 27-28-29

จันทร์ที่ 29 ก.ค. หยุดชดเชยวันเฉลิมพระชนมพรรษารัชกาลที่ 10

เดือนสิงหาคม

· ได้หยุด เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ ที่ 10-11-12

วันจันทร์ที่ 12 ส.ค. วันแม่แห่งชาติ

เดือนตุลาคม

· ได้หยุด เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ ที่ 12-13-14

วันจันทร์ที่ 14 ต.ค. หยุดชดเชยวันคล้ายวันสวรรคตรัชกาลที่ 9

· หยุดวันพุธที่ 23 ต.ค. วันปิยมหาราช

**ลาอีก 2 วันได้หยุด 5 วัน**

เดือนธันวาคม

· วันพฤหัสที่ 5 ธ.ค. วันพ่อแห่งชาติ

· วันอังคารที่ 10 ธ.ค. วันรัฐธรรมนูญ

**ถ้าลา 2 วันได้หยุด 6 วัน**

· วันอังคารที่ 31 ธ.ค. 62 – วันพุธที่ 1 ม.ค. 63

**ช่วงปีใหม่ ลา 3 วันได้หยุด 9 วัน ทั้งอาทิตย์เลย J


พาครอบครัวไปพักผ่อนแล้วก็อย่าลืมหาเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนจากความคิดต่างๆ ที่วิ่งมาราธอนมาทั้งปี หาสถานที่ไปพักจิตปฏิบัติธรรม หรือจะเป็นการไปเข้าค่ายสุขภาพล้างพิษ บรรจุลงไปในปฏิทิน เป็นการ retreat ประจำปี ของเราก็ได้นะคะ

20 views0 comments

ปกติในคนวัยเราๆ ทำงานมาทั้งปีได้เที่ยวบ้างเป็นพักๆ ก็ถือว่าได้ผ่อนคลาย ได้หย่อนใจ ได้ชาร์จพลังให้กลับไปทำงานต่อได้ แน่นอนเรารู้กันอยู่กันแล้วว่าการท่องเที่ยว เป็นยาขนานเอกในการเติมพลังชีวิต แล้วผู้สูงอายุที่บ้านเราล่ะ อยู่บ้านทุกวันพวกท่านจะไม่อยากเที่ยวบ้างหรือ? การพาผู้สูงอายุออกจากบ้านไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา มีผลดีทั้งต่อร่างกาย จิตใจอารมณ์ และสังคม ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุและอายุที่ยืนยาวขึ้น




5 เหตุผล....ที่ลูกหลานควรพาผู้สูงอายุออกไปเที่ยว


1. ได้เปลี่ยนอิริยาบท จากนั่งๆ เดินๆ อยู่แค่ภายในบริเวณบ้าน การออกมานอกบ้านนั้น ผู้สูงอายุจะมีการเคลื่อนไหว มีกิจกรรมทางกายมากกว่าปกติ บางคนถือโอกาสนี้ เป็นการพาผู้สูงอายุ ไปออกกำลังกาย บางครอบครัว อาจจัดเป็นกิจวัตรที่ต้องพาออกไปทุกสัปดาห์ก็เป็นได้


2. ดีต่อสมองให้คงความสามารถให้นานขึ้น เช่น ความทรงจำระยะสั้น การออกไปข้างนอกบ้านเป็นการฝึก จดจำเส้นทาง สถานที่ การแก้ปัญหาการจัดการต่างๆ แม่แต่การซื้อของ การจดจำราคา อ่านฉลากสินค้า คำนวนเงิน เป็นการรักษาฟังก์ชั่น และคงความสามารถในการจัดการ การวิเคราะห์และการเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ จากการเปิดหูเปิดตา การเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ


3. เพิ่มปฏิสัมพันธ์กับสังคม การได้ออกไปยังที่ต่างๆ นอกบ้านได้เห็นผู้คน เห็นบ้านเมืองหรือสถานที่ต่างๆ การได้พบปะพูดคุยกับเพื่อน หรือได้พบเจอคนใหม่ๆ ในที่ต่างๆ ที่ไป แม้แต่การได้พูดกับพนักงานเสริฟเพื่อสั่งอาหาร พูดขอบคุณพนักงานที่เปิดประตูให้ การตอบพนักงานเซเว่น เด็กน้อยหรือสัตว์เลี้ยง ก็เป็นการเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบข้าง ผู้สูงอายุจะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม


4. ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกๆ หลานๆ ลูกหลานก็ได้ใช้เวลา อยู่กับผู้สูงอายุเช่นกัน นอกจากได้มี quality time ร่วมกันกับครอบครัวแล้ว ยังได้ฝึกแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะบางครั้ง หากเราไม่ได้พาผู้สูงอายุออกมาเที่ยว เราอาจไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ในการเจอกับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งลูกหลานและผู้สูงอายุต่างก็ได้ฝึกปรับตัว ในการเตรียมตัวเที่ยวแต่ละครั้ง


5. มีอายุยืนยาวขึ้น เกิดจากจิตใจและอารมณ์ที่ดี และความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว จากเหตุผลทั้งหมด ที่กล่าวมาข้างต้นจะทำให้สุขภาพโดยรวมของผู้สูงอายุดีขึ้น เพราะผู้สูงอายุที่ยังออกนอกบ้านได้ แสดงถึงความแข็งแรง ความสามารถที่จะออกไปใช้ชีวิตภายนอกบ้าน แม้อาจจะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือในการพาออกไปบ้างก็ตาม



Level ของการออกไปเที่ยวนั้น มีตั้งแต่ ออกไปเที่ยวตลาดใกล้บ้าน ออกไปช้อปปิ้งที่ห้างประจำ นัดเจอเพื่อน หรือทานข้าวกับครอบครัว ไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปจนถึงเที่ยวต่างประเทศ แม้กระทั่งผู้สูงอายุบางท่าน ไม่ชอบออกนอกบ้านเลย แค่การได้ออกมาหาหมอตามนัดก็ถือว่าได้ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศแล้ว ผู้สูงอายุนั้นบางครั้งแค่ได้ออกนอกบ้านมาเดินออกไปแค่ถนนหน้าหมู่บ้านก็ถือว่าออกนอกบ้านแล้ว รู้อย่างนี้แล้ว ลูกหลานพาหมั่นพาผู้สูงอายุออกไปเที่ยวกันนะคะ



แหล่งข้อมูล

#พาแม่เที่ยว #ผู้สูงอายุเที่ยว #Mobilitydevice #qualitytime #5เหตุผลที่ควรพาผู้สูงอายุเที่ยว #ออกนอกบ้าน #อุปกรณ์ช่วยเหลือ #อุปกรณ์พกพาท่องเที่ยว #กระเป๋าใส่ของล้อลาก #Rollator

43 views0 comments
bottom of page